บริษัท อินเทค จำกัด | INTEG CO.,LTD

วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์

เวลา : 09.00 - 17.00 น.

ซื้อรถมือสองอย่างมั่นใจ! ด้วยเครื่องวัดความหนาสีก่อนตัดสินใจ

การมองหารถยนต์มือสองสักคันแม้จะดูคุ้มค่าในเรื่องของราคา แต่ในความคุ้มค่านั้นก็มีความเสี่ยงซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสีตัวถังที่อาจผ่านการตกแต่งพ่นสีมาใหม่ หรือยิ่งไปกว่านั้นคือ เคยเกิดอุบัติเหตุซ่อมหนักมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ขายมักจะไม่เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาอย่างแน่นอน ในบทความนี้จะพามารู้จักวิธีที่ช่างมืออาชีพและเซียนรถเลือกใช้ในการตรวจสอบก็คือ เครื่องวัดค่าสี หรือ เครื่องวัดความหนาสีที่ช่วยให้คุณรู้ว่ารถคันนั้นเคยผ่านการพ่นสีมาหรือไม่ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อรถยนต์มือสอง

เลือกอ่าน

การมองหารถยนต์มือสองสักคันแม้จะดูคุ้มค่าในเรื่องของราคา แต่ในความคุ้มค่านั้นก็มีความเสี่ยงซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสีตัวถังที่อาจผ่านการตกแต่งพ่นสีมาใหม่ หรือยิ่งไปกว่านั้นคือ เคยเกิดอุบัติเหตุซ่อมหนักมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ขายมักจะไม่เปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาอย่างแน่นอน

ในบทความนี้จะพามารู้จักวิธีที่ช่างมืออาชีพและเซียนรถเลือกใช้ในการตรวจสอบก็คือ เครื่องวัดค่าสี หรือ เครื่องวัดความหนาสีที่ช่วยให้คุณรู้ว่ารถคันนั้นเคยผ่านการพ่นสีมาหรือไม่ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อรถยนต์มือสอง

ทำไมต้องวัดสีรถยนต์มือสองก่อนซื้อ?

การวัดสีไม่ใช่เรื่องเฉพาะทางของช่างอีกต่อไป เพราะเครื่องวัดค่าสีช่วยเช็กสภาพสีของรถยนต์ ซึ่งบ่งบอกอะไรได้มากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น

  • ตรวจสอบว่ารถเคยเกิดอุบัติเหตุหรือทำสีมาก่อนหรือไม่
  • สังเกตจุดที่ถูกซ่อมหรือพ่นสีใหม่ได้แม่นยำกว่าตาเปล่า
  • ป้องกันการถูกหลอกขายรถที่ผ่านการซ่อมหนัก
  • เพิ่มความมั่นใจก่อนตัดสินใจจ่ายเงินก้อนใหญ่
ทำไมต้องวัดสีรถยนต์มือสองก่อนซื้อ

แล้วเครื่องวัดค่าสี คืออะไร?

เครื่องวัดค่าสี หรือที่เรียกกันว่า เครื่องวัดความหนาสี คือ อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจสอบความหนาของชั้นสีที่พ่นบนพื้นผิวโลหะ เช่น ตัวถังรถยนต์ โดยเครื่องวัดความหนาสีนี้สามารถบอกได้ว่าบริเวณนั้น ๆ มีชั้นสีมากกว่าปกติหรือไม่ ซึ่งเป็นสัญญาณว่า รถอาจผ่านการพ่นสีซ้ำ หรือผ่านการโป๊วสีจากการซ่อมหนักมาก่อน

อ่านบทความที่น่าสนใจ : รู้จักกับเกจวัดความหนา เครื่องวัดความหนาของผิวเคลือบ

ข้อดีของการใช้เครื่องวัดสีรถยนต์

  • รู้ทันรถที่เคยทำสีหรือซ่อมอุบัติเหตุ
  • ป้องกันการถูกหลอกขายรถที่สภาพไม่ตรงกับที่อ้าง
  • ใช้ประกอบการต่อรองราคากับผู้ขาย
  • ใช้งานง่าย พกพาสะดวก เหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
การตรวจสอบก่อนซื้อรถยนต์มือสอง

วัดสีรถยนต์มือสองด้วยเครื่องวัดค่าสีอย่างไรดี?

คุณสามารถลองใช้เครื่องวัดค่าสีเพื่อตรวจสอบรถยนต์มือสองได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ตามขั้นเหล่านี้

  • เตรียมเครื่องวัด

ก่อนอื่นเริ่มจากตรวจสอบเครื่องวัดว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่มีร่องรอยความเสียหาย แตกหัก หรือผิดปกติใด ๆ แบตเตอรี่เพียงพอ และตั้งค่าหน่วยวัดที่ต้องการ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หน่วยที่นิยมใช้ในการวัดความหนาสีรถยนต์ คือ ไมครอน (µm) หรือบางครั้งอาจเป็นมิลลิเมตร (mm) ตรวจสอบและตั้งค่าหน่วยวัดให้ตรงกับที่คุณต้องการ

  • สอบเทียบก่อนใช้งาน

ในเครื่องวัดบางรุ่น อาจต้องมีการสอบเทียบกับแผ่นมาตรฐานที่มาพร้อมกับตัวเครื่องก่อนใช้งาน เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องวัดรุ่นที่มีความละเอียดสูง อย่างไรก็ตาม ควรสอบคุณเครื่องวัดก่อนเริ่มใช้งานในแต่ละครั้ง หรือตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งาน เพื่อให้มั่นใจในความถูกต้องของผลการวัด

  • ทำความสะอาดพื้นผิวรถยนต์ที่ต้องการวัดค่าสี

ฝุ่นละออง คราบสกปรก หรือแม้แต่หยดน้ำบนพื้นผิวรถยนต์ อาจส่งผลให้ค่าที่วัดไม่แม่นยำ ควรใช้ผ้าสะอาดเช็ดบริเวณที่จะทำการวัดเบา ๆ หากมีคราบฝังแน่น ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดรถยนต์ที่ไม่ทิ้งคราบ และเช็ดให้แห้งสนิทก่อนทำการวัด เพื่อไม่ให้มีฝุ่นหรือคราบที่จะรบกวนผลลัพธ์

  • วัดค่าสีอย่างทั่วถึง

แนบหัววัดของเครื่องเข้ากับพื้นผิวรถที่ต้องการตรวจสอบให้ครอบคลุมทั่วทั้งคันรถ โดยเน้นบริเวณต่อไปนี้เป็นพิเศษ เช่น

  • แผงประตูทั้งสี่บาน: วัดทั้งส่วนบน กลาง และล่างของแต่ละบาน
  • ฝากระโปรงหน้าและหลัง: วัดหลาย ๆ จุดทั่วทั้งแผง
  • แก้มข้าง (บังโคลนหน้าและหลัง): วัดทั้งส่วนบนและด้านข้าง
  • หลังคา: หากสามารถเข้าถึงได้อย่างปลอดภัย ให้วัดหลาย ๆ จุด
  • เสา A, B, และ C: บริเวณเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับโครงสร้างตัวถัง
  • ขอบประตูและขอบฝากระโปรง: สังเกตความเรียบร้อยของการพ่นสีบริเวณขอบต่าง ๆ
  • บริเวณใกล้เคียงกับไฟหน้าและไฟท้าย: อุบัติเหตุมักส่งผลกระทบต่อบริเวณเหล่านี้
  • มุมกันชนหน้าและหลัง: เป็นจุดที่มักเกิดการเฉี่ยวชน
  • ซุ้มล้อ: ตรวจสอบร่องรอยการซ่อมแซมหรือผุผง

โดยทำการวัดอย่างน้อย 3-5 จุด ในแต่ละบริเวณที่กล่าวมา เพื่อให้ได้ค่าเฉลี่ยและเห็นภาพรวมของความหนาของสีในบริเวณนั้น

  • เปรียบเทียบค่า

เปรียบเทียบค่าความหนาที่วัดได้ในแต่ละจุด โดยทั่วไปแล้ว ความหนาของสีรถยนต์ที่ออกจากโรงงานจะอยู่ในช่วงประมาณ 100-180 ไมครอน (µm) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของรถ นั่นหมายความว่า หากพบบริเวณที่มีค่าความหนาที่แตกต่างจากบริเวณอื่นอย่างชัดเจน คือ สูงเกิน 200 ไมครอน อาจเป็นสัญญาณว่าบริเวณนั้นเคยมีการพ่นสีซ่อมแซม 

หรือเมื่อเปรียบเทียบค่าที่วัดได้ในแต่ละจุดทั่วทั้งคัน แล้วพบว่ามีความแตกต่างกันมากระหว่างบริเวณหนึ่งกับอีกบริเวณหนึ่ง บ่งบอกถึงการซ่อมแซมเฉพาะจุด เช่น ในกรณีที่รถเคยมีอุบัติเหตุหนัก อาจมีการใช้สีโป๊วเพื่อปรับสภาพพื้นผิวก่อนพ่นสีใหม่ ซึ่งจะทำให้ค่าความหนาที่วัดได้สูงผิดปกติ และอาจมีความไม่สม่ำเสมอ

  • สังเกตความสม่ำเสมอ

นอกจากค่าความหนาแล้ว ให้สังเกตความสม่ำเสมอของค่าที่วัดได้ หากค่ามีความผันผวนมากในบริเวณใกล้เคียงกัน ก็อาจบ่งบอกถึงการพ่นสีที่ไม่เรียบเนียน เช่น วัดได้ 150 µm จุดถัดไปวัดได้ 250 µm แล้วกลับมา 180 µm อาจบ่งบอกถึงการพ่นสีที่ไม่เรียบเนียน หรือการซ่อมแซมที่ไม่ประณีต

หากพบร่องรอยการขัดที่ไม่สม่ำเสมอ หรือสีดูไม่กลมกลืนกับบริเวณอื่น ไปจนถึงสีในแต่ละส่วนของรถดูแตกต่างกันเล็กน้อย เช่น สีไม่สดใสเท่ากัน หรือมีเฉดสีที่เพี้ยนไป ก็อาจเป็นผลมาจากการพ่นสีคนละครั้ง หรือการผสมสีที่ไม่ตรงกัน

 

แนะนำเครื่องวัดสีรถยนต์ที่น่าใช้

หากคุณกำลังมองหาเครื่องวัดความหนาสีที่แม่นยำ ใช้งานง่าย และเชื่อถือได้ในระดับมืออาชีพ PosiTector 6000 Coating Thickness Gages รุ่น FNS1 เครื่องวัดความหนาสีที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมทั่วโลก เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

เครื่องวัดค่าสี PosiTector 6000 รุ่น FNS1

defelsko positector 6000 fns1

จุดเด่นของ PosiTector 6000 รุ่น FNS1

  • รองรับพื้นผิวหลากหลาย วัดได้ทั้งพื้นผิวโลหะและไม่ใช่เหล็ก
  • แม่นยำและรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีแม่เหล็กไฟฟ้าและกระแสไหลวน
  • แข็งแรง ทนทาน ใช้งานสะดวก
  • มีระบบเก็บข้อมูล พร้อมเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์และแอปสำหรับรายงานผล
  • ผ่านมาตรฐานสากล ISO, ASTM, SSPC

ให้คุณตรวจสอบความหนาชั้นสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายรถมือสอง อู่ซ่อมสี หรือแม้แต่ผู้ซื้อทั่วไปที่ต้องการความมั่นใจในรถที่กำลังจะซื้อ เครื่องวัดความหนาสี PosiTector 6000 รุ่น FNS1 ก็สามารถตอบโจทย์ได้ครบถ้วน

วัดค่าสีรถยนต์มือสองได้แม่นยำด้วยเครื่องวัดความหนาสี Defelsko

การซื้อรถมือสองไม่ใช่แค่เรื่องของราคา หรือรูปลักษณ์ภายนอก แต่คือการตรวจสอบทุกองค์ประกอบอย่างรอบคอบ ดังนั้น เครื่องวัดค่าสีหรือเครื่องวัดความหนาสีรถยนต์ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่มืออาชีพเลือกใช้ เพราะช่วยตรวจสอบชั้นสีที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ช่วยให้คุณประเมินได้ว่ารถคันนั้นเคยผ่านการพ่นสีซ่อมแซมมาหรือไม่ และสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

หากคุณกำลังมองหาเครื่องวัดค่าสีคุณภาพสูง บริษัท อินเทค จำกัด เป็นตัวเลือกที่คุณวางใจได้ เราเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพที่ครบวงจร พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้เครื่องวัดที่เหมาะสม รวมถึงแนะนำวิธีบำรุงรักษา เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการตรวจสอบของคุณจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และสามารถใช้งานได้ยาวนาน

Share :

Facebook
Email
X

เลือกอ่าน