พ่นทรายกลางแจ้ง เลือกอุปกรณ์ป้องกันในงานพ่นทราย (PPE) แบบไหนดี?

งานพ่นทรายกลางแจ้งอันตรายอย่างไร?

งานพ่นทรายกลางแจ้งเต็มไปด้วยความเสี่ยงหลายด้าน หากขาดอุปกรณ์ป้องกันงานพ่นทราย (PPE) ที่เหมาะสม ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อผู้ปฏิบัติงานได้ เช่น

1. ฝุ่นซิลิกาและอนุภาคละเอียด

ฝุ่นจากทรายพ่นและผิววัสดุที่ถูกกัดกร่อนมีขนาดเล็กมาก สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากใช้ทรายพ่นซิลิกา อาจส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคปอดเรื้อรัง เช่น โรคซิลิโคสิส (Silicosis)

2. แรงดันลมและอนุภาคพุ่งกระแทก

แรงดันลมและอนุภาคที่พุ่งออกมาจากหัวพ่นทรายด้วยความเร็วสูง อาจทำอันตรายต่อผิวหนังจนเกิดบาดแผล หรือเข้าตาจนทำให้เกิดการอักเสบและอันตรายต่อดวงตา และส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้

3. เสียงดังระดับสูง

เสียงที่เกิดจากการทำงานของเครื่องพ่นทรายและคอมเพรสเซอร์ มักจะปล่อยเสียงดังเกินกว่า 85 dB ซึ่งเกินระดับที่ปลอดภัย จึงสามารถทำลายการได้ยินได้ในระยะยาว จนอาจส่งผลให้สูญเสียการได้ยินแบบถาวรได้

4. ความร้อนและแสงแดด

งานพ่นทรายเป็นงานที่ใช้เวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานพ่นทรายกลางแจ้ง เพราะการทำงานกลางแจ้งอย่างต่อเนื่อง ร่างกายต้องเผชิญทั้งแดดและความร้อนสะสม ทำให้เสี่ยงต่อการอ่อนล้า สูญเสียน้ำและเกลือแร่ อาจเกิดอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หรือฮีทสโตรกได้

อ่านเรื่องอื่นที่น่าสนใจ : ความสำคัญของชุด PPE ในงานยิงทราย เรื่องความปลอดภัยที่คุณควรรู้

อุปกรณ์ PPE ที่จำเป็นสำหรับงานพ่นทรายกลางแจ้ง

เพื่อรับมือกับอันตรายทั้งหมดนี้ การเลือกชุดป้องกันพ่นทราย  ให้ถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยอุปกรณ์แต่ละชิ้นก็ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายในส่วนที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. หมวกนิรภัยและชุดครอบศีรษะ (Blast Helmet / Hood)

หมวกนิรภัยและชุดครอบศีรษะทำหน้าที่ปกป้องทั้งศีรษะ ใบหน้า และระบบหายใจจากฝุ่นซิลิกา แรงดันลม และอนุภาคแข็งที่กระเด็นด้วยความเร็วสูง โดยจะครอบคลุมทั้งศีรษะและใบหน้า และในบางรุ่นยังมาพร้อมกระจกกันกระแทก (Lens Protection) เพื่อป้องกันดวงตา

รวมถึงระบบจ่ายอากาศบริสุทธิ์ (Air Supply) ที่ผ่านการกรองก่อนต่อเข้าหมวก เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานหายใจได้อย่างปลอดภัยและต่อเนื่อง

ดังนั้น การเลือกหมวกที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสากล เช่น CE หรือ NIOSH ไม่เพียงช่วยป้องกันอันตราย แต่ยังเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ปฏิบัติงานในทุกสภาพแวดล้อมได้อีกด้วย

2. ระบบจ่ายอากาศหายใจ (Air-fed Respirator)

ระบบจ่ายอากาศเป็นส่วนที่ทำงานร่วมกับหมวกหรือหน้ากากพ่นทราย ทำหน้าที่กรองฝุ่น สารพิษ และไอระเหยที่เป็นอันตรายก่อนส่งอากาศสะอาดเข้ามาให้ผู้ปฏิบัติงานหายใจได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงของโรคปอดและปัญหาสุขภาพระยะยาว 

สำหรับงานกลางแจ้งที่ต้องทำต่อเนื่องหลายชั่วโมง ระบบจ่ายอากาศบางรุ่นมาพร้อมระบบปรับอุณหภูมิ เพื่อช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานรู้สึกสบายขึ้นเมื่อเจอสภาพอากาศร้อนจัดหรือหนาวเย็น ถือเป็นฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน

3. ชุดป้องกันร่างกาย (Protective Clothing)

ชุดป้องกันร่างกาย เป็นชุดกันฝุ่นสำหรับงานพ่นทราย มักทำจากวัสดุที่หนาและทนทาน เช่น หนังหรือผ้าเคลือบพิเศษ เพื่อป้องกันการเสียดสีและแรงกระแทกจากอนุภาคที่กระเด็นมา ชุดป้องกันพ่นทรายที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ผิวหนังได้เป็นอย่างดี

Apollo 600 Low Pressure NIOSH-Approved Type-CE Respirator

หน้ากากพ่นทรายที่ถูกออกแบบมาสำหรับงานพ่นทรายโดยเฉพาะ นอกจากโครงสร้างที่แข็งแรงและป้องกันแรงดันกระแทกแล้ว จุดเด่นสำคัญคือ มีระบบจ่ายอากาศ (Air-fed system) ที่เชื่อมต่อกับท่ออากาศจากคอมเพรสเซอร์ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับอากาศสะอาดและเพียงพอตลอดเวลา

• เลนส์ 3 ชั้น ป้องกันฝุ่น เศษวัสดุ และแรงดัน พร้อมเลนส์ที่เปลี่ยนง่าย
• ผ้าคลุมไนลอน เชื่อมต่อกับตัวหมวก ปิดรอบคอและลำตัวส่วนบน เพื่อป้องกันฝุ่นและทรายไม่ให้เล็ดลอด
• ระบบจ่ายอากาศ เชื่อมต่อกับท่ออากาศเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานหายใจได้อย่างต่อเนื่อง
• เสริมอุปกรณ์ควบคุมอากาศได้ เหมาะกับการทำงานในสภาพกลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูง
• โครงสร้างแข็งแรง ทนทาน วัสดุคุณภาพสูง รองรับแรงกระแทกและสภาพการทำงานหนักกลางแจ้ง อายุการใช้งานยาวนาน

Apollo 600 จึงเป็นทั้งหน้ากากพ่นทรายพร้อมระบบจ่ายอากาศ พร้อมชุดกันฝุ่นที่ป้องกันครบทั้งระบบทางเดินหายใจ กันฝุ่น และแรงกระแทก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานพ่นทรายกลางแจ้ง ที่ต้องการทั้งความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งานจริง

4. ถุงมือและรองเท้านิรภัย

ถุงมือและรองเท้านิรภัย เป็นชุด PPE ที่ช่วยปกป้องอวัยวะสำคัญอย่างมือและเท้า ซึ่งเป็นอวัยวะที่ต้องเผชิญกับแรงเสียดสี เศษทรายพ่น และอุบัติเหตุจากแรงดันลมอยู่ตลอดเวลา โดยมีหลักการเลือก ดังนี้

• ถุงมือพ่นทราย ควรเลือกถุงมือที่ทำมาจากหนังหนาพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันแรงเสียดสีและอนุภาคที่กระแทกนิ้วและมือ
• รองเท้านิรภัย ควรเลือกรองเท้าบูทที่มีหัวเหล็ก (Steel-toe) เพื่อป้องกันแรงกระแทกจากของหนัก และพื้นรองเท้ากันลื่นเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน

Clemco Leather Blast Gloves

ถุงมือพ่นทรายที่ออกแบบมาเพื่อช่างพ่นทรายโดยเฉพาะ โดดเด่นด้วยวัสดุหนังแท้คุณภาพสูงที่ให้ทั้งความทนทานต่อการเสียดสี และความนุ่มกระชับ สวมใส่สบายตลอดการทำงาน

• แข็งแรงและยืดหยุ่น ผลิตจากหนังแท้ ทนต่อแรงเสียดสี แต่ยังคงความยืดหยุ่น ช่วยให้ผู้สวมใส่ขยับมือทำงานได้อย่างคล่องตัว
• กระชับกับรูปมือ หนังแท้ปรับเข้ากับสรีระมือได้ดี หมดกังวลเรื่องขนาดไม่พอดี
• การป้องกันสูงสุด โครงสร้างหนังหนาแน่น ลดแรงกระแทกและป้องกันมือจากเศษทรายพ่น เพิ่มความปลอดภัยในทุกสภาวะการทำงาน
• สวมใส่สบาย ลดความเมื่อยล้า รองรับการใช้งานต่อเนื่อง

Clemco Leather Blast Gloves จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ป้องกันมือที่ทั้งทนทาน ปลอดภัย และใส่สบายในระยะยาว ถือเป็นหนึ่งใน PPE ที่ช่างพ่นทรายมืออาชีพควรมีติดไว้เสมอ

5. อุปกรณ์ป้องกันการได้ยิน (Hearing Protection)

งานพ่นทรายเป็นกิจกรรมที่สร้างเสียงดังจากเครื่องคอมเพรสเซอร์และหัวฉีดลมที่ปล่อยแรงดันสูง ระดับเสียงเหล่านี้มักเกินกว่า 85 เดซิเบล (dB) ซึ่งหากผู้ปฏิบัติงานสัมผัสเสียงดังต่อเนื่องโดยไม่ป้องกัน อาจทำให้การได้ยินเสื่อมถาวรหรือเกิดอาการหูอื้อเรื้อรังได้

จึงควรใช้ Earplug ที่มีค่าลดเสียง (Noise Reduction Rating – NRR) ที่เหมาะสม เพื่อลดความดังของเสียงให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อการได้ยิน

อ่านเรื่องอื่นที่น่าสนใจ: 5 อุปกรณ์ป้องกัน PPE ที่ช่างพ่นสีและพ่นทรายจำเป็นต้องมี

เทคนิคเลือก PPE ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง

งานพ่นทรายกลางแจ้งมีความท้าทายมากกว่าการทำงานในพื้นที่ปิด ทั้งฝุ่น ความร้อน ความชื้น และระยะเวลาการทำงานที่ยาวนาน ดังนั้นการเลือกชุดป้องกันพ่นทรายที่เหมาะสมกับสภาพหน้างานจริงจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้

• เลือก PPE ที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อลดความร้อนสะสมในร่างกาย ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่เหนื่อยล้าเกินไปและป้องกันภาวะขาดน้ำ
• ตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยสากล อุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น CE หรือ NIOSH เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพว่าสามารถป้องกันอันตรายได้จริง
• เลือกอุปกรณ์ที่บำรุงรักษาง่าย เพราะงานกลางแจ้งมีฝุ่นและความชื้นสูง ชุด PPE พ่นทรายที่สามารถทำความสะอาดและดูแลรักษาง่ายจะช่วยยืดอายุการใช้งานและคุ้มค่ามากกว่า
• พิจารณาความสะดวกสบาย (Comfort) ผู้ปฏิบัติงานต้องสวมอุปกรณ์เหล่านี้เป็นเวลานาน อุปกรณ์ที่สวมใส่สบายจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ใส่ได้ตลอดวันโดยไม่เกิดการบาดเจ็บหรือเมื่อยล้า

การดูแลและบำรุงรักษาชุด PPE ทำได้อย่างไรบ้าง?

อุปกรณ์ป้องกันพ่นทราย หรือชุด PPE จะทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี หากละเลยขั้นตอนเหล่านี้ อุปกรณ์อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร จนอาจลดทอนความปลอดภัยของผู้ใช้งานได้ โดยมีแนวทางการดูแลรักษาที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

• ทำความสะอาดหลังใช้งานทุกครั้ง ล้างหรือเช็ดฝุ่นและคราบออกจากชุด หน้ากาก ถุงมือ และอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและสารเคมี
• ตรวจสอบความเสียหาย ตรวจเช็กว่ามีรอยขาด รอยรั่ว หรือชิ้นส่วนหลวมชำรุดหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบวันหมดอายุของแผ่นกรองอากาศในหน้ากากพ่นทราย
• จัดเก็บอย่างเหมาะสม เก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเท ไม่ชื้น และปลอดฝุ่น หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงหรือความร้อนสูง เพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

อุปกรณ์ PPE ชุดป้องกันที่ขาดไม่ได้ในงานพ่นทรายกลางแจ้ง

การเลือกชุดป้องกันพ่นทรายที่เหมาะสมกับงานพ่นทรายกลางแจ้ง เพราะไม่ใช่แค่ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยเพียงเท่านั้น แต่เป็นเส้นแบ่งระหว่างการทำงานอย่างมั่นใจกับความเสี่ยงต่ออันตรายร้ายแรง PPE ที่ถูกต้องและครบชุดช่วยป้องกันฝุ่น เสียงดัง แรงกระแทก และอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น การลงทุนไปกับ PPE สำหรับพ่นทรายที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงระยะยาว และสร้างความมั่นใจให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

หากคุณกำลังมองหา ชุดป้องกันพ่นทรายคุณภาพมาตรฐานสากล อินเทค (INTEG) พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำอุปกรณ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณได้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับงานของคุณทันที

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

• Line: integth
• Facebook: Integ จำหน่ายเครื่องพ่นสี เครื่องพ่นทราย มาตรฐานสากล 
• Tel. 098-798-8539
• Email: Integ_04@integ.co.th