ทำไมการเลือกหัวพ่นสีถึงสำคัญ?
หัวพ่นสี (Airless Spray Tip) คือหนึ่งในอุปกรณ์พ่นสีที่มีความสำคัญในการช่วยควบคุมปริมาณ การกระจาย ลายพ่น และความหนาฟิล์มสีที่ออกจากเครื่องพ่นสีแรงดันสูงโดยตรง ซึ่งการใช้หัวพ่นที่เหมาะสมกับลักษณะงาน ไม่เพียงช่วยให้งานพ่นสีมีความสวยงามตรงกับความต้องการเท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนสี และยืดอายุการใช้งานของเครื่องพ่นสีแรงดันสูงได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามหากเลือกหัวพ่นสีไม่เหมาะกับงานหรือชนิดสี อาจส่งผลให้เกิดปัญหาเหล่านี้
- ลายพ่นไม่สม่ำเสมอ
- ฟิล์มสีหนาเกินไป
- หัวพ่นตันเร็ว
- สิ้นเปลืองสี
อ่านบทความที่น่าสนใจ: หมดปัญหาสีหลุดพอง! ด้วยเครื่องตรวจความหนาสี ให้งานพ่นสีไม่มีพลาด

5 ปัจจัยสำคัญที่ต้องรู้ก่อนเลือก ‘หัวพ่นสี’
สำหรับงานสีที่มีคุณภาพ ทั้งฟิล์มสีที่เรียบเนียน การยึดเกาะ และความสวยงาม โดยทั่วไปมืออาชีพมักจะพิจารณาเลือกหัวพ่นสีจาก 5 ปัจจัยสำคัญต่อไปนี้
1. ขนาดของชิ้นงาน
ปัจจัยแรก คือขนาดของชิ้นงาน หากเป็นชิ้นงานขนาดใหญ่ ควรใช้หัวพ่นขนาดใหญ่ที่ให้การกระจายครอบคลุมพื้นที่ ทำให้เก็บงานได้เร็วและไม่สิ้นเปลืองการใช้สีพ่น ส่วนชิ้นงานขนาดเล็กหรืองานที่ต้องการความละเอียดสูง ควรใช้หัวพ่นสีที่มีการกระจายต่ำ เพื่อควบคุมทิศทางการพ่นได้แม่นยำและได้งานพ่นสีที่มีคุณภาพ
ตัวอย่างการเลือกใช้งาน
- งานเฟอร์นิเจอร์ งานเก็บสีที่ต้องการรายละเอียด ใช้หัวพ่นสีเบอร์ 311-413
- งานพ่นสีโครงสร้างขนาดใหญ่ ใช้หัวพ่นสีเบอร์ 517-523
2. ความหนาของสีที่ต้องการพ่น
นอกจากขนาดชิ้นงานแล้ว ปัจจัยด้านความหนาฟิล์มสีก็มีผลต่อการเลือกขนาดหัวพ่นสีด้วย เช่น สีรองพื้นกันสนิม หรือ Epoxy Primer ควรใช้หัวพ่นสีที่มีรูพ่นขนาดใหญ่ หากต้องการฟิล์มสีบางสำหรับงานทับหน้าหรือสีตกแต่ง ควรใช้หัวพ่นสีรูเล็กเพื่อควบคุมการกระจายของสี
ตัวอย่างการเลือกใช้งาน
- ต้องการใช้สีที่ให้ฟิล์มสีหนา ใช้หัวพ่นสีเบอร์ 519-521
- ต้องการใช้สีที่ให้ฟิล์มสีบาง ใช้หัวพ่นสีเบอร์ 311-415

3. ความหนืดของสี
ชนิดของสีต่างกันทำให้ระดับความหนืดต่างกันด้วย เป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาเลือกหัวพ่น เพราะสีที่หนืดมากต้องใช้หัวพ่นที่มีรูขนาดใหญ่ เพื่อให้ไหลผ่านได้ดี ไม่อุดตัน และได้งานพ่นสีเรียบสวยส่วนสีเหลวควรใช้หัวพ่นรูเล็กเพื่อควบคุมการกระจายไม่ให้เกินพื้นที่ที่ต้องการ
ตัวอย่างการเลือกใช้งาน
สีพ่นอุตสาหกรรมประเภท Epoxy หรือ PU มักใช้หัวพ่นสีที่มีขนาดรู 0.017–0.021 นิ้ว
4. ชนิดของสี
นอกจากปัจจัยความหนืดสีแล้ว ยังพิจารณาจากชนิดหรือสูตรของสีได้ เพราะสีแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่ต่างกัน การเลือกหัวพ่นไม่เหมาะกับชนิดของสี อาจทำให้หัวตันเร็ว สีออกไม่สม่ำเสมอ หรืองานพ่นไม่เรียบตามต้องการ
ตัวอย่างการเลือกใช้งาน
- สี Epoxy ที่ใช้ในงานพ่นสีอุตสาหกรรมทั่วไป เหมาะกับหัวพ่นรูใหญ่
- สี Polyurethane (PU) หรือสีสูตรน้ำ มีความหนืดต่ำ เหมาะกับหัวพ่นสีรูเล็ก
- สี Zinc-Rich สีที่มีคุณสมบัติในการป้องกันสนิม ควรใช้หัวพ่นที่ทนการสึกหรอสูง
5. เครื่องพ่นสีที่ใช้
หัวพ่นแต่ละรุ่นมีการออกแบบไม่เหมือนกัน เช่น เครื่องพ่นสีแรงดันสูง หรือ Airless Spray จะใช้หัวพ่นแอร์เลส หรือ Airless Spray Tip ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแรงดันโดยเฉพาะ ส่วนเครื่องพ่นแบบลม หรือ Air Spray และ HVLP จะใช้กับหัวพ่นสีที่สามารถควบคุมอัตราลมร่วมด้วย หากใช้หัวพ่นที่ไม่ตรงกับระบบเครื่องพ่นสี หรืออุปกรณ์พ่นสีที่ใช้ อาจทำให้แรงดันไม่สม่ำเสมอ สิ้นเปลืองสี และเกิดการกระจายสีผิดรูปแบบได้

แนะนำเครื่องพ่นสีอุตสาหกรรม AIRLESS SPRAY จาก WIWA
เพื่อให้ได้งานพ่นสีที่มีคุณภาพในระดับสากล ขอแนะนำ เครื่องพ่นสี Airless Spray Model 28064 แบรนด์ WIWA จากประเทศเยอรมนี จัดจำหน่ายโดย บริษัท อินเทค จำกัด เครื่องพ่นสีอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในงานพ่นสีและเคลือบผิวโดยเฉพาะ รองรับการใช้งานหัวพ่นแอร์เลส ที่ให้แรงดันสูง กระจายสีได้สม่ำเสมอ พร้อมด้วยคุณสมบัติเด่น เช่น
- โครงสร้างทนทาน ป้องกันการกัดกร่อน ใช้งานหนักได้ต่อเนื่อง
- แรงดันสูง พ่นสีได้เรียบเนียน ประหยัดสี
- ใช้งานกับสีที่มีความหนืดสูงได้
- ดูแลและบำรุงรักษาได้ง่าย
- มีอุปกรณ์เสริมมากมาย ปรับแต่งได้ครอบคลุมกับทุกงานพ่นสีอุตสาหกรรม
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: WIWA Airless Spray Model 28064
เคล็ดลับการดูแลหัวพ่นสีให้ใช้งานได้นาน
นอกจากการเลือกหัวพ่นสีจะมีความสำคัญในด้านความคุ้มค่าแล้ว การดูแลหัวพ่นสีให้ใช้งานได้นานก็เป็นวิธีที่ช่วยลดต้นทุนในงานสีได้เช่นเดียวกัน โดยเคล็ดลับการดูแลหัวพ่นสามารถทำได้ด้วย 5 วิธีต่อไปนี้
- ล้างหัวพ่นทันทีหลังใช้งาน ป้องกันสีแห้งอุดตันในรูพ่น
- ห้ามใช้ของมีคมแคะรูหัวพ่น เพราะอาจทำให้ขนาดรูเปลี่ยน
- เก็บหัวพ่นในที่แห้งและสะอาด ป้องกันการเกิดสนิม
- ใช้แรงดันตามที่ผู้ผลิตกำหนด ไม่ควรเกินค่าที่แนะนำ (PSI/Bar)
- เปลี่ยนหัวพ่นใหม่เมื่อระดับการกระจายสีพ่นไม่สม่ำเสมอ หรือไม่สามารถควบคุมทิศทางการพ่นได้

เข้าใจปัจจัยสำคัญก่อนเลือกหัวพ่นสี เพื่อผลงานที่มีคุณภาพและการใช้งานระยะยาว
การเลือกหัวพ่นสีที่ถูกต้อง ไม่เพียงทำให้งานพ่นออกมาดูดี แต่ยังช่วยประหยัดเวลา ลดการสิ้นเปลืองสี และลดความเสียหายของเครื่องพ่นสีอุตสาหกรรมได้ในระยะยาว ดังนั้น หากผู้ใช้เข้าใจปัจจัยที่สำคัญ ก็จะช่วยเลือกหัวพ่นสีได้อย่างเหมาะสม รองรับกับเครื่องพ่นสีที่ใช้ และคุณภาพของผลงานที่ได้มาตรฐาน
หากท่านกังวลเกี่ยวกับการเลือกหัวพ่นสีหรือเครื่องพ่นสีอุตสาหกรรม สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก บริษัท อินเทค จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องพ่นสีแรงดันสูง WIWA และอุปกรณ์พ่นสีอุตสาหกรรมครบวงจร เพื่อให้คุณเลือกอุปกรณ์ได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- Line: integth
- Facebook: Integ จำหน่ายเครื่องพ่นสี เครื่องพ่นทราย มาตรฐานสากล
- Tel. 098-798-8539
- Email: Integ_04@integ.co.th
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกหัวพ่นสี
Q: หัวพ่นสีเบอร์ใหญ่กับเบอร์เล็กต่างกันยังไง?
A: หัวพ่นเบอร์ใหญ่ปล่อยสีได้มากกว่า เหมาะกับงานพ่นพื้นผิวกว้างและสีหนืดสูง ส่วนเบอร์เล็กให้ลายพ่นละเอียด เหมาะกับงานตกแต่งหรือชิ้นงานขนาดเล็ก
Q: หัวพ่นตันบ่อยเกิดจากอะไร?
A: เกิดจากสีแห้งติดหัวพ่นหรือไม่ได้ล้างทันทีหลังใช้งาน ควรใช้ทินเนอร์หรือน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะทุกครั้งหลังพ่นเสร็จ
Q: เลือกหัวพ่นตามชนิดสีได้ไหม?
A: ได้ เช่น สี Epoxy ใช้หัวพ่นขนาด 0.019–0.021 นิ้ว สี PU ใช้หัวพ่นขนาด 0.011–0.015 นิ้ว ส่วนสีสูตรน้ำควรใช้หัวพ่นสีที่มีรูพ่นขนาดเล็กเพื่อควบคุมแรงพ่น และลดการฟุ้งกระจาย
Q: เมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนหัวพ่นสี?
A: เมื่อสีที่พ่นออกมามีลายพ่นไม่สม่ำเสมอ หรือเริ่มใช้ปริมาณสีมากกว่าปกติ คือสัญญาณว่าควรเปลี่ยนหัวพ่นใหม่เพื่อคุณภาพงานสีให้ได้มาตรฐาน



