บริษัท อินเทค จำกัด | INTEG CO.,LTD

วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์

เวลา : 09.00 - 17.00 น.

ระบบ QC ในงานพ่นสีต้องดูอะไรบ้าง?

ในงานพ่นสีอุตสาหกรรม หลายคนให้ความสำคัญกับการเลือกสีและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพในการทำงานเพื่อให้ได้คุณภาพงานพ่นสีตามที่ต้องการ แต่กลับมองข้ามขั้นตอนการ QC งานพ่นสีที่ถูกต้อง เช่น สีหลุดลอก สีแตก สีพ่นไม่เรียบ และอื่น ๆ ทำให้ต้องแก้ไขงานสีซึ่งต้องแลกมาด้วยต้นทุนและเวลาที่มากขึ้น การทำระบบ QC ในงานพ่นสีอย่างเหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในงานพ่นสีที่ไม่ควรมองข้าม

เลือกอ่าน

การตรวจสอบ qc งานพ่นสี คืออะไร

ระบบ QC ในงานพ่นสีคืออะไร?

ระบบ QC งานพ่นสี คือกระบวนการวางแผน ตรวจสอบ และบันทึกผล เพื่อให้ชิ้นงานที่ผ่านการพ่นสีมีคุณภาพตามมาตรฐาน ทั้งในเรื่องของความทนทาน ความสม่ำเสมอของฟิล์มสี ความปลอดภัย และภาพลักษณ์สินค้า หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นขั้นตอนการควบคุมคุณภาพงานพ่นสี (Quality Control) ให้ตรงตามความต้องการมากที่สุด

จุดประสงค์หลักของระบบ QC งานพ่นสี

ระบบ QC งานพ่นสีมีจุดประสงค์หลักเพื่อการตรวจสอบคุณภาพและควบคุมงานพ่นสีให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยเฉพาะในด้านต่อไปนี้

  • ความสม่ำเสมอ : การตรวจ QC สีพ่นจะช่วยตรวจสอบได้ว่าฟิล์มสีมีผิวเรียบเนียน สีตรงเฉด ไม่มีคราบและสิ่งสกปรกที่ชิ้นงาน
  • ความทนทาน : งานพ่นสีที่มีคุณภาพจะมีการยึดเกาะที่ดี มีความหนาสีตามสเปก และทนต่อสภาพแวดล้อม
  • ความปลอดภัย : เพื่อให้ขั้นตอนและสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นไปตามมาตรฐาน เช่น อุณหภูมิ ความชื้น และจุดน้ำค้าง
  • ภาพลักษณ์สินค้า : ตรวจสอบคุณภาพงานพ่นสีโดยรวม เพื่อให้ได้รายละเอียดชิ้นงานที่สวยงาม ไม่มีข้อผิดพลาด และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า
  • มาตรฐานที่เกี่ยวข้อง : หลายโครงการให้ความสำคัญกับระบบ QC งานพ่นสีเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลที่กำหนด เช่น SSPC, NACE และ ISO

การควบคุมคุณภาพในงานพ่นสีด้วยระบบ QC จึงเป็นกระบวนการที่สำคัญและควรมีอยู่ในขั้นตอนงานพ่นสีโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ตรงตามมาตรฐานมากที่สุด

QC Checklist ที่ต้องควบคุมในงานพ่นสี

เพื่อให้ระบบ QC งานพ่นสีมีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ครบทุกมิติ ในกระบวนการตรวจคุณภาพงานพ่นสีควรตรวจสอบตาม QC Checklist ต่อไปนี้

1. การเตรียมพื้นผิวก่อนพ่นสี

ก่อนเริ่มงานพ่นสี ควรมีการเตรียมพื้นผิววัสดุหรือโครงสร้างให้พร้อมสำหรับงานพ่นสี และเพื่อให้สียึดเกาะได้ดี ซึ่งจุดที่ควรตรวจสอบมีดังนี้

  • ตรวจสอบว่าพื้นผิวสะอาด ปราศจากฝุ่น น้ำมัน คราบไข คราบสีเดิมหรือสนิม ก่อนเริ่มงานพ่นสีทุกครั้ง
  • ควบคุมระดับความหยาบผิวให้เหมาะกับระบบสี ด้วยเครื่องมือวัดความหยาบผิว (Surface Profile Gauge) เพื่อวัดและประเมินความขรุขระของพื้นผิววัสดุ
  • เลือกประเภทของสีพ่นอุตสาหกรรมที่เหมาะกับพื้นผิว โครงสร้าง และคุณภาพงานที่ต้องการ

หากตรวจสอบแล้วพบว่าจำเป็นต้องมีการปรับสภาพพื้นผิวเพื่อลดความหยาบและคราบสิ่งสกปรก ก็จะเข้าสู่กระบวนการเตรียมพื้นผิวด้วยการพ่นทราย หรือขัดผิวก่อนทาสีรองพื้น

อ่านบทความที่น่าสนใจ : ทำไมต้องพ่นทรายก่อนพ่นสี? ขั้นตอนเตรียมพื้นผิวก่อนพ่นสีที่ต้องรู้

2. ความหนาของฟิล์มสี

การตรวจสอบ QC คุณภาพสีพ่นขั้นตอนนี้จะเป็นการตรวจสอบความหนาของฟิล์มสี เพื่อดูว่าฟิล์มสีในบริเวณนั้นมีความหนาที่เหมาะสมหรือไม่ ตามรายละเอียดต่อไปนี้

  • ใช้เครื่องวัดความหนาสี (Coating Thickness Gauge) ตรวจวัดระดับความหนาของฟิล์มสี
  • ควรตรวจวัดความหนาสีทั้งก่อนแห้งและหลังแห้ง โดยค่าเฉลี่ยระดับความหนาที่ได้ควรเป็นไปตามที่ผู้ผลิตกำหนด เช่น 80–120 ไมครอน
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำบนคู่มือการใช้งาน เช่น เลือกประเภทเครื่องวัดความหนาสีให้เหมาะกับพื้นผิวและวัสดุ

3. ความสม่ำเสมอของการพ่น

คุณภาพงานพ่นสีที่ดี ควรมีความสม่ำเสมอของสีพ่น เพราะปัญหาที่พบบ่อยของงานพ่นสี เช่น สีไม่เรียบ มีรอยพ่นซ้ำ ปัญหาเหล่านี้มักทำให้คุณภาพงานลดลง ซึ่งการตรวจ QC งานพ่นสีจุดนี้ทำได้โดยวิธีต่อไปนี้

  • ตรวจด้วยสายตา งานสีที่ดีต้องมีผิวเรียบ ไม่มีรอยทับพ่น เม็ดฝุ่น รอยหยด ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วสามารถมองเห็นได้ด้วยตาทันที
  • ตรวจดูความเรียบเนียนของฟิล์มสี ด้วยวิธีใช้ไฟส่องเฉียงบนผิวงาน
  • สำหรับจุดที่ตรวจสอบด้วยตาได้ยาก อาจใช้เครื่องวัดความหนาสีเพื่อดูความสม่ำเสมอของสีได้

4. การยึดเกาะของสี

งานพ่นสีในโรงงานอุตสาหกรรม ต้องให้ความสำคัญกับการยึดเกาะของสี เพราะบ่งบอกถึงความทนทานและคุณภาพ สำหรับวิธีตรวจ QC การยึดเกาะของสีสามารถทำได้ ดังนี้

  • ใช้วิธีทดสอบแบบ Cross Hatch หรือ Pull-Off Test ด้วยเครื่องทดสอบการยึดเกาะสำหรับสีและสารเคลือบ เพื่อตรวจสอบการยึดเกาะของสีกับพื้นผิวหรือวัสดุจริง
  • ประเมินว่ามีการลอกหลุดร่อนของสีหรือไม่ และบันทึกผลเพื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน

5. สีและความเงาตรงตามสเปกหรือไม่

Checklist สุดท้ายคือการตรวจสอบความสมบูรณ์ของงานพ่นสีโดยรวม ก่อนส่งมอบงานหรือโครงการซึ่งการตรวจสอบ QC ทำได้ดังนี้

  • ใช้เครื่องมือ Gloss Meter ในการช่วยวัดระดับความเงา และ Colorimeter หรือ Spectro ตรวจวัดความแม่นยำของเฉดสี

สำหรับการตรวจสอบ QC สีพ่นในจุดนี้จะค่อนข้างสำคัญมากในอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น งานพ่นสีในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน

เครื่องมือ qc งานพ่นสี จัดจำหน่ายโดย integ

เครื่องมือ QC ที่ควรมีในงานพ่นสี

เพื่อให้ได้งานพ่นสีที่มีคุณภาพ คุ้มค่าต่อการใช้งานมากที่สุด นอกจาก เครื่องพ่นสี ที่ใช้จะสำคัญแล้ว การเลือกเครื่องมือ QC งานพ่นสีที่ถูกต้องและได้มาตรฐานก็เป็นอีกส่วนประกอบที่มองข้ามไม่ได้ โดยเครื่องมือ QC สำหรับงานพ่นสีมีดังต่อไปนี้

  • Surface Profile Gauge : เครื่องวัดความหยาบพื้นผิว สำหรับขั้นตอนของการเตรียมพื้นผิวในการพ่นสี
  • Coating Thickness Gauge : เครื่องวัดความหนาสีที่ใช้สำหรับวัดความหนาฟิล์มสีให้ตรงสเปก
  • Dew Point Meter : เครื่องมือสำหรับวัดจุดน้ำค้าง เพื่อประเมินสภาพสิ่งแวดล้อม เช่น ความชื้น และอุณหภูมิจุดน้ำค้าง
  • Pull-Off Adhesion Tester : เครื่องมือสำหรับทดสอบการยึดเกาะของสี
  • เครื่องมืออื่น ๆ : เช่น Colorimeter สำหรับวัดความแม่นยำของสี หรือ Gloss Meter สำหรับวัดระดับความเงา

เพื่อให้งานพ่นสีเป็นไปตามคุณภาพและมาตรฐานที่ต้องการ INTEG ขอแนะนำเครื่องมือวัด QC ในงานพ่นสี เช่น ครื่องวัดความหนาสี Defelsko PosiTector 200 สำหรับคอนกรีต ไฟเบอร์กลาส และพลาสติก หรือ เครื่องวัดความหนาสี Defelsko PosiTector 6000สำหรับพื้นผิวเหล็กและสแตนเลส เพื่อให้ได้ระดับความหนาของฟิล์มสีตรงตามมาตรฐาน ลดการแก้ไข และปัญหางานพ่นสีในภายหลัง

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์สำหรับตรวจสอบคุณภาพงานพ่นสีอีกมากมาย สามารถเลือกชมรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ เครื่องมือวัด QC

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย หากไม่มีระบบ QC งานพ่นสีที่ดี

หากไม่มีระบบ QC ในงานพ่นสีที่ดี สิ่งที่ตามมาคือปัญหาและข้อผิดพลาด ซึ่งบางกรณีอาจเกิดขึ้นทันทีหลังส่งมอบงาน โดยข้อผิดพลาดและปัญหาที่พบบ่อยจากงานพ่นสีที่ไม่มีระบบ QC มีดังนี้

  • สีลอก สีพองหลังพ่น มักเกิดจากการเตรียมผิวไม่เหมาะสม หรือความชื้นสะสมบนผิวงาน
  • ความหนาสีไม่สม่ำเสมอ ทำให้ต้องแก้ไขงาน บางจุดฟิล์มสีหนาเกินไปทำให้แตกร้าว มีลักษณะเป็นผิวส้ม
  • ส่งมอบงานแล้วไม่ผ่านมาตรฐานลูกค้าหรือผู้ควบคุม เสียความน่าเชื่อถือ และอาจถึงขั้นโดนยกเลิกงานได้
  • เสียต้นทุนรวม ทั้งค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าเสียเวลา ค่าอุปกรณ์สำหรับแก้ไขงาน

แนวทางการจัดตั้งระบบ QC งานพ่นสีที่เหมาะสม

เพื่อระบบ QC ในงานพ่นสีที่ดี ต้องเริ่มตั้งแต่การวางแผนการตรวจสอบในแต่ละขั้นตอน อาจใช้แนวทางต่อไปนี้ในการวางแผน QC งานพ่นสี

  • วางแผน QC ครบวงจร : ตั้งแต่ก่อนพ่นสี เช่น ตรวจความพร้อมพื้นผิวและสภาพแวดล้อม ตรวจสอบระหว่างพ่นสี เช่น เทคนิคในการพ่นสี การตั้งค่าปืน แรงดันเครื่องพ่นสี และความปลอดภัย และการตรวจสอบ QC หลังพ่น ทั้งความหนาฟิล์มสี การยึดเกาะ และความสวยงามตรงสเปก
  • ฝึกอบรมทีมช่างและผู้ควบคุม : เพื่อให้ทราบถึงมาตรฐานวิธีทดสอบ วิธีใช้เครื่องมือ และอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยมากที่สุด
  • สอบเทียบเครื่องมือวัดสม่ำเสมอ : ควรทำการสอบเทียบเครื่องมือตามรอบเวลาที่กำหนดบนคู่มือผู้ผลิต เพื่อความแม่นยำ
  • จัดทำบันทึก QC Record : เก็บค่าตรวจวัด รูปถ่าย และข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากการทำ QC งานพ่นสี เพื่อเปรียบเทียบในการทำงานในครั้งต่อไป
วางแผนระบบ qc งานพ่นสีโรงงาน เพื่อคุณภาพงานที่ได้มาตรฐาน

คุณภาพงานพ่นสีที่ดี เริ่มได้ตั้งแต่ระบบ QC ที่ถูกต้อง

เพื่อควบคุมคุณภาพงานพ่นสีที่ดี การวางแผนตรวจสอบ QC ในงานพ่นสีจึงไม่ใช่แค่การตรวจสอบตอนจบงาน แต่ต้องมีอยู่ในทุกขั้นตอนของงานพ่นสีโรงงาน เพื่อให้ได้งานที่ตรงตามมาตรฐาน และมีคุณภาพได้ตามที่ต้องการ ทั้งนี้ เพื่อให้ระบบ QC งานพ่นสีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การมีเครื่องมือและอุปกรณ์ QC ที่ครบครัน จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและช่วยให้กระบวนการตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากที่สุด

สำหรับท่านที่กำลังมองหาเครื่องมือ QC สำหรับงานพ่นสี บริษัท อินเทค จำกัด เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานพ่นสี งานพ่นทราย และเครื่องมือ QC ครบวงจร หากท่านไม่แน่ใจว่าควรเริ่มต้นกับเครื่องมือชิ้นไหน ทีมงานอินเทค ยินดีให้คำแนะนำ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การ QC งานพ่นสี (FAQ)

Q : จำเป็นต้องมีเครื่องมือวัดความหนาสีหรือไม่?

A : จำเป็นอย่างมากสำหรับงานที่ต้องควบคุมคุณภาพ เพราะช่วยให้ได้ความหนาสีที่อยู่ในระดับมาตรฐาน ลดงานแก้และปัญหาการลอกพอง

Q : งานซ่อมเก็บสีเล็กน้อย หรืองาน DIY ต้องทำ QC ไหม?

A : ควรทำ QC พื้นฐาน เช่น ตรวจสภาพผิวก่อนพ่นสี ตรวจสอบความเรียบของสีด้วยสายตา อาจตรวจสอบการยึดเกาะของสีเพิ่มเติมเพื่อให้ได้งานสวยและทนทาน

Q : สีพ่นที่หนาเกินไปส่งผลอย่างไร?

A : ฟิล์มสีที่หนาเกินอาจส่งผลกับตัวทำละลาย ทำให้พอง แตก และสิ้นเปลืองสี ควรพ่นหลายชั้นบางๆ แทนการอัดหนาในครั้งเดียว

Q : ควรตรวจ QC ตอนพ่นหรือหลังพ่น?

A : ทั้งสองช่วง รวมถึงการ QC พื้นผิวก่อนพ่นสีด้วย

Q : มีมาตรฐานใดรองรับการ QC งานพ่นสีบ้าง?

A : มาตรฐานที่พบบ่อย เช่น ISO 19840, SSPC-PA 2, ASTM D3359 หรือมาตรฐานเฉพาะของลูกค้าและโครงการ

Share :

Facebook
Email
X

เลือกอ่าน