
ทำความเข้าใจพื้นฐานของสีพ่นทั้งสองประเภท
เพื่อให้ได้สีพ่นให้เหมาะกับการใช้งานจริง ก่อนเลือกใช้งาน เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานของสีพ่นแต่ละประเภทกันก่อน
1. สีพ่นอุตสาหกรรม (Industrial Coating)
สีพ่นอุตสาหกรรม เป็นกลุ่มสีที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องพื้นผิวสำหรับการใช้งานหนัก เช่น โครงสร้างโลหะ เครื่องจักร เรือ ระบบท่อ งานภายนอกที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมรุนแรง หรือการกระแทกและการขัดถูอยู่เป็นประจำ สีพ่นอุตสาหกรรมที่นิยมใช้ คือ สีพ่น Epoxy, สีพ่น PU และสีพ่น Alkyd เพราะมีคุณสมบัติทนสารเคมี รังสี UV ความร้อน และประสิทธิภาพการยึดเกาะสูง
2. สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ (Water-based Furniture Paint)
สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ คือ สีที่พัฒนามาเพื่อใช้สำหรับงานตกแต่งและงานเฟอร์นิเจอร์ ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เพราะสีพ่นชนิดนี้จะใช้น้ำเป็นทำละลายแทนสารเคมี ทำให้มีกลิ่นฉุนน้อย ไร้สารพิษ ปลอดภัยต่อผู้ใช้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเป็นสีพ่นที่มีความยืดหยุ่นสูง ให้ผิวเรียบเนียนไม่แตกร้าวง่าย นิยมใช้กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ งานบิวท์อิน งานตกแต่งภายใน
ตารางเปรียบเทียบ สีพ่นอุตสาหกรรม vs สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ
จากพื้นฐานของสีทั้ง 2 ประเภท จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันในหลายด้าน ซึ่งเราได้เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายตามตารางด้านล่างนี้
| คุณสมบัติ | สีพ่นอุตสาหกรรม | สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ |
| ส่วนผสมหลัก | ทินเนอร์ ตัวทำละลาย | น้ำ |
| กลิ่นและ VOCs | มีกลิ่นแรง มี VOCs สูง | กลิ่นน้อย ปลอดภัยต่อผู้ใช้ |
| ความทนทาน | ทนเคมีและแดดจัด | เหมาะกับสภาพแวดล้อมในอาคาร |
| พื้นผิวที่ใช้ได้ | โลหะ เหล็ก คอนกรีต | MDF ไม้ พลาสติก |
| อุปกรณ์พ่นที่ใช้ | Airless Spray | HVLP, Air Spray |
| ราคาและการดูแล | ราคาสูงกว่า ดูแลง่าย ทนทานสูง | ราคาถูกกว่า ดูแลง่าย |
| การแห้ง ฟิล์มสี | แห้งช้า ฟิล์มเงาแข็งแรง เคลือบผิวได้ดี | แห้งเร็ว ให้ผิวสัมผัสเรียบเนียน |
อ่านบทความที่น่าสนใจ: เครื่องพ่นสีอุตสาหกรรมเลือกแบบไหนดี? แนะนำประเภทและการเลือกใช้งาน
วิธีเลือกสีพ่นให้เหมาะกับงานของคุณ
การเลือกใช้สีพ่นให้เหมาะกับงาน นอกจากการเข้าใจพื้นฐานความแตกต่างของสีพ่นอุตสาหกรรม และสีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำแล้ว การเลือกให้เหมาะกับพื้นผิวของงานยังเป็นวิธีที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์งานพ่นสีที่ดีด้วย โดยมีวิธีเลือกดังนี้
- โครงสร้างเหล็ก โลหะ เครื่องจักร งานภายนอกอาคาร สีพ่นอุตสาหกรรมสูตร Epoxy และสี PU จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
- งานเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งภายใน หรืองานไม้ สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ คือตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะมีคุณสมบัติแห้งเร็ว ให้ผิวเรียบเนียน และปลอดภัย ไม่มีกลิ่น
- งานพ่นสีในพื้นที่ปิด หรือมีความร้อนสูง สีสูตรน้ำ จะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสม
- สำหรับงานภายนอกที่ต้องถูกแสงแดดจัด ฝน สารเคมี หรือไอเกลือทะเล สีพ่นอุตสาหกรรมจะให้คุณสมบัติในการป้องกันพื้นผิวและยึดเกาะได้ดีที่สุด
ยกระดับงานสีให้เป็นมืออาชีพด้วย เครื่องพ่นสีอุตสาหกรรม WIWA จากประเทศเยอรมนี ที่มาพร้อมตัวเลือกหลายรุ่น รองรับทั้งสีพ่นอุตสาหกรรมและสีสูตรน้ำ ช่วยเปลี่ยนความยุ่งยากในงานพ่นสี ให้เป็นเรื่องง่าย ดูรายละเอียดได้ที่ อุปกรณ์พ่นสี

ข้อดี–ข้อจำกัดของสีพ่นแต่ละแบบ
นอกจากการเลือกสีพ่นตามความเหมาะสมของพื้นผิวและการใช้งานแล้ว เรื่องของข้อดี และข้อจำกัดของสีพ่นทั้ง 2 แบบ ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ ตามรายละเอียดต่อไปนี้
สีพ่นอุตสาหกรรม
สีพ่นอุตสาหกรรม เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และเน้นการใช้งานภายนอก ซึ่งมีข้อดีและข้อจำกัด ดังนี้
ข้อดี
- ทนทานสูง
- ปกป้องพื้นผิวได้ดี
- อายุการใช้งานยาวนาน
- ยึดเกาะดี
- ใช้งานได้กับหลายพื้นผิว
- ฟิล์มสีมีความเงาสวย
ข้อจำกัด
- ต้องมีระบบระบายอากาศในการใช้งาน หรือใช้ภายนอก
- ต้องใช้อุปกรณ์พ่นสีที่มีประสิทธิภาพสูง
- ต้องมีขั้นตอน QC งานสี
- ต้นทุนสีและเวลาเตรียมผิวสูง เพื่อให้ได้งานคุณภาพสูงในระยะยาว
อ่านบทความที่น่าสนใจ : ระบบ QC ในงานพ่นสีต้องดูอะไรบ้าง?
สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ
สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ เป็นตัวเลือกที่ให้ความปลอดภัยสูงสำหรับงานพ่นสี และยังเหมาะสำหรับการใช้งานภายในเพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งข้อดีและข้อจำกัดของสีพ่นสูตรน้ำ มีดังนี้
ข้อดี
- ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม
- กลิ่นสีน้อย
- แห้งไว คุมผิวเรียบได้ง่าย
- ยึดเกาะดี
- การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์พ่นสีค่อนข้างง่าย
ข้อจำกัด
- ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกต่ำ
- หากใช้กับงานไม้ ต้องเตรียมผิวไม้ให้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องความชื้น
- บางงานอาจต้องใช้ไพรเมอร์ชั้นแรกเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ

เลือกสีพ่นให้ถูกสูตร เพื่อผลลัพธ์งานสีที่มีคุณภาพ
เรียกได้ว่าการเลือกสีพ่นสำหรับงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กและใหญ่นั้น ต่างก็มีข้อจำกัดและข้อควรพิจารณาที่แตกต่างกัน ซึ่งหากผู้ใช้เลือกใช้สีพ่นจากปัจจัยอย่าง วัสดุของพื้นผิว การใช้งานภายในหรือภายนอก และประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ก็ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ในงานพ่นสีที่มีคุณภาพ คุ้มค่า และรองรับการใช้งานได้ในระยะยาว
สำหรับท่านที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานพ่นสี ขอแนะนำ เครื่องพ่นสีคุณภาพสูง WIWA จัดจำหน่ายโดย บริษัท อินเทค จำกัด เครื่องพ่นสีที่รองรับการใช้งานทั้งสีพ่นอุตสาหกรรมที่มีความข้นหนืดสูง และสีสูตรน้ำที่ต้องการการกระจายตัวละเอียด ให้ผลลัพธ์เรียบเนียนสวยในทุกงาน ยินดีให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ท่านเลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- Line: integth
- Facebook: Integ จำหน่ายเครื่องพ่นสี เครื่องพ่นทราย มาตรฐานสากล
- Tel. 098-798-8539
- Email: Integ_04@integ.co.th
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ สีพ่นอุตสาหกรรม กับ สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ
Q: สีพ่นอุตสาหกรรมกับสีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำต่างกันยังไง?
A: สีอุตสาหกรรมจะเน้นความทนทานและการปกป้องพื้นผิว ส่วนสีเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำจะเน้นที่ความปลอดภัยในอาคารและความสวยของผิว
Q: ใช้สีพ่นอุตสาหกรรมกับเฟอร์นิเจอร์ได้ไหม?
A: ไม่แนะนำในพื้นที่อยู่อาศัย เพราะมีกลิ่นและ VOCs สูง ควรใช้สีสูตรน้ำสำหรับงานภายในที่ปลอดภัยกว่า
Q: สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ มีข้อจำกัดยังไงบ้าง?
A: ไม่เหมาะสำหรับงานกลางแจ้งที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง และทนต่อรอยขีดข่วนต่ำ
Q: อุปกรณ์พ่นสำหรับสองระบบนี้ต่างกันหรือไม่?
A: ต่างกัน หากเป็นสีพ่นอุตสาหกรรมมักใช้ Airless Spray เพื่อควบคุมฟิล์สีได้ดีและเหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่ ส่วนสูตรน้ำเฟอร์นิเจอร์นิยม HVLP หรือ Air Spray เพื่อผิวเรียบเนียน



