บริษัท อินเทค จำกัด | INTEG CO.,LTD

วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์

เวลา : 09.00 - 17.00 น.

เจาะลึกความต่าง สีพ่นอุตสาหกรรม vs สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ ใช้อะไรดีสำหรับงานของคุณ?

หลายคนอาจคุ้นเคยกับสีพ่นอุตสาหกรรม และสีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำในงานพ่นสี เพราะมักเป็นตัวเลือกที่ถูกนำไปใช้ในงานพ่นสีอยู่บ่อยครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่าสีพ่นทั้ง 2 ประเภทนี้ มีความแตกต่างกันทั้งด้านคุณสมบัติ และจุดประสงค์ในการใช้งานอย่างชัดเจน บทความนี้จะพาไปเจาะลึกความแตกต่าง พร้อมบอกแนวทางการเลือกให้เหมาะกับการใช้งานจริงกัน

เลือกอ่าน

การใช้งานพื้นฐาน สีพ่นอุตสาหกรรม

ทำความเข้าใจพื้นฐานของสีพ่นทั้งสองประเภท

เพื่อให้ได้สีพ่นให้เหมาะกับการใช้งานจริง ก่อนเลือกใช้งาน เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานของสีพ่นแต่ละประเภทกันก่อน

1. สีพ่นอุตสาหกรรม (Industrial Coating)

สีพ่นอุตสาหกรรม เป็นกลุ่มสีที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องพื้นผิวสำหรับการใช้งานหนัก เช่น โครงสร้างโลหะ เครื่องจักร เรือ ระบบท่อ งานภายนอกที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมรุนแรง หรือการกระแทกและการขัดถูอยู่เป็นประจำ สีพ่นอุตสาหกรรมที่นิยมใช้ คือ สีพ่น Epoxy, สีพ่น PU และสีพ่น Alkyd เพราะมีคุณสมบัติทนสารเคมี รังสี UV ความร้อน และประสิทธิภาพการยึดเกาะสูง

2. สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ (Water-based Furniture Paint)

สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ คือ สีที่พัฒนามาเพื่อใช้สำหรับงานตกแต่งและงานเฟอร์นิเจอร์ ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เพราะสีพ่นชนิดนี้จะใช้น้ำเป็นทำละลายแทนสารเคมี ทำให้มีกลิ่นฉุนน้อย ไร้สารพิษ ปลอดภัยต่อผู้ใช้และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเป็นสีพ่นที่มีความยืดหยุ่นสูง ให้ผิวเรียบเนียนไม่แตกร้าวง่าย นิยมใช้กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ งานบิวท์อิน งานตกแต่งภายใน

ตารางเปรียบเทียบ สีพ่นอุตสาหกรรม vs สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ

จากพื้นฐานของสีทั้ง 2 ประเภท จะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันในหลายด้าน ซึ่งเราได้เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายตามตารางด้านล่างนี้

คุณสมบัติสีพ่นอุตสาหกรรมสีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ
ส่วนผสมหลักทินเนอร์ ตัวทำละลายน้ำ
กลิ่นและ VOCsมีกลิ่นแรง มี VOCs สูงกลิ่นน้อย ปลอดภัยต่อผู้ใช้
ความทนทานทนเคมีและแดดจัดเหมาะกับสภาพแวดล้อมในอาคาร
พื้นผิวที่ใช้ได้โลหะ เหล็ก คอนกรีตMDF ไม้ พลาสติก
อุปกรณ์พ่นที่ใช้Airless SprayHVLP, Air Spray
ราคาและการดูแลราคาสูงกว่า ดูแลง่าย ทนทานสูงราคาถูกกว่า ดูแลง่าย
การแห้ง ฟิล์มสีแห้งช้า ฟิล์มเงาแข็งแรง เคลือบผิวได้ดีแห้งเร็ว ให้ผิวสัมผัสเรียบเนียน

อ่านบทความที่น่าสนใจ: เครื่องพ่นสีอุตสาหกรรมเลือกแบบไหนดี? แนะนำประเภทและการเลือกใช้งาน

วิธีเลือกสีพ่นให้เหมาะกับงานของคุณ

การเลือกใช้สีพ่นให้เหมาะกับงาน นอกจากการเข้าใจพื้นฐานความแตกต่างของสีพ่นอุตสาหกรรม และสีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำแล้ว การเลือกให้เหมาะกับพื้นผิวของงานยังเป็นวิธีที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์งานพ่นสีที่ดีด้วย โดยมีวิธีเลือกดังนี้

  • โครงสร้างเหล็ก โลหะ เครื่องจักร งานภายนอกอาคาร สีพ่นอุตสาหกรรมสูตร Epoxy และสี PU จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
  • งานเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งภายใน หรืองานไม้ สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ คือตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะมีคุณสมบัติแห้งเร็ว ให้ผิวเรียบเนียน และปลอดภัย ไม่มีกลิ่น
  • งานพ่นสีในพื้นที่ปิด หรือมีความร้อนสูง สีสูตรน้ำ จะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสม
  • สำหรับงานภายนอกที่ต้องถูกแสงแดดจัด ฝน สารเคมี หรือไอเกลือทะเล สีพ่นอุตสาหกรรมจะให้คุณสมบัติในการป้องกันพื้นผิวและยึดเกาะได้ดีที่สุด

ยกระดับงานสีให้เป็นมืออาชีพด้วย เครื่องพ่นสีอุตสาหกรรม WIWA จากประเทศเยอรมนี ที่มาพร้อมตัวเลือกหลายรุ่น รองรับทั้งสีพ่นอุตสาหกรรมและสีสูตรน้ำ ช่วยเปลี่ยนความยุ่งยากในงานพ่นสี ให้เป็นเรื่องง่าย ดูรายละเอียดได้ที่ อุปกรณ์พ่นสี

ข้อจำกัดของสีพ่นอุตสาหกรรม และสีพ่นสูตรน้ำ

ข้อดี–ข้อจำกัดของสีพ่นแต่ละแบบ

นอกจากการเลือกสีพ่นตามความเหมาะสมของพื้นผิวและการใช้งานแล้ว เรื่องของข้อดี และข้อจำกัดของสีพ่นทั้ง 2 แบบ ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ ตามรายละเอียดต่อไปนี้

สีพ่นอุตสาหกรรม

สีพ่นอุตสาหกรรม เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และเน้นการใช้งานภายนอก ซึ่งมีข้อดีและข้อจำกัด ดังนี้

ข้อดี

  • ทนทานสูง
  • ปกป้องพื้นผิวได้ดี
  • อายุการใช้งานยาวนาน
  • ยึดเกาะดี
  • ใช้งานได้กับหลายพื้นผิว
  • ฟิล์มสีมีความเงาสวย

ข้อจำกัด

  • ต้องมีระบบระบายอากาศในการใช้งาน หรือใช้ภายนอก
  • ต้องใช้อุปกรณ์พ่นสีที่มีประสิทธิภาพสูง
  • ต้องมีขั้นตอน QC งานสี
  • ต้นทุนสีและเวลาเตรียมผิวสูง เพื่อให้ได้งานคุณภาพสูงในระยะยาว

อ่านบทความที่น่าสนใจ : ระบบ QC ในงานพ่นสีต้องดูอะไรบ้าง?

สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ

สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ เป็นตัวเลือกที่ให้ความปลอดภัยสูงสำหรับงานพ่นสี และยังเหมาะสำหรับการใช้งานภายในเพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งข้อดีและข้อจำกัดของสีพ่นสูตรน้ำ มีดังนี้

ข้อดี

  • ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม
  • กลิ่นสีน้อย
  • แห้งไว คุมผิวเรียบได้ง่าย
  • ยึดเกาะดี
  • การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์พ่นสีค่อนข้างง่าย

ข้อจำกัด

  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกต่ำ
  • หากใช้กับงานไม้ ต้องเตรียมผิวไม้ให้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องความชื้น
  • บางงานอาจต้องใช้ไพรเมอร์ชั้นแรกเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ
เลือกสีพ่นให้เหมาะกับงาน เพื่อคุณภาพระยะยาว

เลือกสีพ่นให้ถูกสูตร เพื่อผลลัพธ์งานสีที่มีคุณภาพ

เรียกได้ว่าการเลือกสีพ่นสำหรับงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กและใหญ่นั้น ต่างก็มีข้อจำกัดและข้อควรพิจารณาที่แตกต่างกัน ซึ่งหากผู้ใช้เลือกใช้สีพ่นจากปัจจัยอย่าง วัสดุของพื้นผิว การใช้งานภายในหรือภายนอก และประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ก็ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ในงานพ่นสีที่มีคุณภาพ คุ้มค่า และรองรับการใช้งานได้ในระยะยาว

สำหรับท่านที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานพ่นสี ขอแนะนำ เครื่องพ่นสีคุณภาพสูง WIWA จัดจำหน่ายโดย บริษัท อินเทค จำกัด เครื่องพ่นสีที่รองรับการใช้งานทั้งสีพ่นอุตสาหกรรมที่มีความข้นหนืดสูง และสีสูตรน้ำที่ต้องการการกระจายตัวละเอียด ให้ผลลัพธ์เรียบเนียนสวยในทุกงาน ยินดีให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ท่านเลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ สีพ่นอุตสาหกรรม กับ สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ

Q: สีพ่นอุตสาหกรรมกับสีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำต่างกันยังไง?

A: สีอุตสาหกรรมจะเน้นความทนทานและการปกป้องพื้นผิว ส่วนสีเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำจะเน้นที่ความปลอดภัยในอาคารและความสวยของผิว

Q: ใช้สีพ่นอุตสาหกรรมกับเฟอร์นิเจอร์ได้ไหม?

A: ไม่แนะนำในพื้นที่อยู่อาศัย เพราะมีกลิ่นและ VOCs สูง ควรใช้สีสูตรน้ำสำหรับงานภายในที่ปลอดภัยกว่า

Q: สีพ่นเฟอร์นิเจอร์สูตรน้ำ มีข้อจำกัดยังไงบ้าง?

A: ไม่เหมาะสำหรับงานกลางแจ้งที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง และทนต่อรอยขีดข่วนต่ำ

Q: อุปกรณ์พ่นสำหรับสองระบบนี้ต่างกันหรือไม่?

A: ต่างกัน หากเป็นสีพ่นอุตสาหกรรมมักใช้ Airless Spray เพื่อควบคุมฟิล์สีได้ดีและเหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่ ส่วนสูตรน้ำเฟอร์นิเจอร์นิยม HVLP หรือ Air Spray เพื่อผิวเรียบเนียน

Share :

Facebook
Email
X

เลือกอ่าน